เพื่อไทย จัดเสวนาปม 8 ปี ยกเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ-ข้อกฎหมาย ยัน “ประยุทธ์” นั่งนายกฯ ต่อไม่ได้ ต้องพ้นจากตำแหน่ง 24 ส.ค.นี้ บี้ เสียสละ รับผิดชอบต่อประเทศ
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ส.ค. 2565 ที่ห้อง Think Lab พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงานเสวนา “8 ปีประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้” โดยมีแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ร่วมเสวนา
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของเทอมการดำรงตำแหน่ง ซึ่งนายกฯ เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารควบคุมดูแลประเทศ มีอำนาจออกคำสั่งกฎระเบียบ เพื่อให้ประเทศเดินไปตามนโยบาย จึงมีหลักการสำคัญการจำกัดอำนาจ เพื่อไม่ให้ใช้อำนาจในระยะเวลามากเกินไป เพราะหากดำรงตำแหน่งยาวนานเกินไป จะสร้างอิทธิพล บารมี ผลประโยชน์ ควบคุมดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง และจะเป็นบ่อเกิดการกระทำทุจริต ประพฤติมิชอบ ด้วยเหตุนี้จึงต้องจำกัดเวลา ซึ่งรัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับมีระยะเวลาของการดำรงตำแหน่ง มาชัดเจนตอนมีรัฐธรรมนูญปี 2550 ระบุว่านายกฯ จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 8 ปีมิได้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ในงานเสวนา “8 ปีประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้”
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ จึงเอาหลักการ 8 ปีมาใช้ แต่เขียนใหม่ว่าห้ามดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ นี่คือเจตนารมณ์ใหม่ของรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ไม่ต้องการให้คนเป็นนายกฯ อยู่ในตำแหน่งยาวนานเกินไป เพราะกลัวว่าจะยึดติดในอำนาจเหมือนที่เราเห็นกันอยู่ ทำอะไรก็ลุแก่อำนาจหลายเรื่อง เช่น การถวายสัตย์
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 นับรวมเป็นนายกฯ จนถึงรัฐธรรมนูญปี 60 แปลว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ ตั้งแต่ปี 2557-2562 พอมาถึงวันที่ 24 ส.ค.65 นี้ พล.อ.ประยุทธ์จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ฟังดูเหมือนจะอยู่ถึงงานเอเปกเลย จึงมีความจำเป็นที่ต้องตั้งเรื่องร้องเรียนไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปี ความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย
ทั้งนี้ ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264 ระบุไว้ชัดว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ ปี 60 ประกาศใช้ ให้เป็นครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ นอกจากนี้ คนที่เป็นนายกฯ มาก่อน ต้องมีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 ยกเว้นไว้หลายเรื่อง แต่ไม่ยกเว้นเรื่อง 8 ปี ดังนั้น เรื่องนี้ติดตัว พล.อ.ประยุทธ์ มา
“เมื่อไปดูรายงานการประชุมของกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 500 ต้องการยกร่างเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 158 ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตั้งประเด็น นายสุพจน์ ไข่มุกด์ พูดเสริมว่าใครที่เป็นนายกฯ ก่อนรัฐธรรมนูญปี 60 ประกาศใช้ สามารถนับรวมระยะเวลากับการเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 60 โดยห้ามเป็นเกิน 8 ปี
สรุปแล้วทั้งลายลักษณ์อักษรตามมาตรา 264 และเจตนารมณ์ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากความเป็นนายกฯ แน่นอน ไปไม่ได้ ทางตัน ส่วนที่เนติบริกรระบุว่า การประชุมดังกล่าวรับฟังได้นิดหน่อยนั้น ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ส่วนครม.ที่เหลือก็รักษาการ ส่วนนายกฯ คนใหม่ก็เข้าสู่กระบวนการ” นายชูศักดิ์ กล่าว
นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ในงานเสวนา “8 ปีประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้”
ด้าน นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เหตุผลที่ พล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค.นี้ คือ 1.ข้อกฎหมาย เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งบทเฉพาะกาลบัญญัติไว้ว่า ครม.ที่มีมาก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ให้เป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ แต่ไม่ได้มีการข้อยกเว้นในประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปีไว้ ดังนั้น ครม.สมัยคสช.ของพล.อ.ประยุทธ์ นับเป็นครม.วันแรก คือวันที่ 24 ส.ค.57 เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ อีกครั้ง แม้จะไม่ได้มีรัฐมนตรีชุดเดิมทั้งคณะ ก็เข้าข่ายว่าครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า 2.เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจและการสืบทอดอำนาจที่ยาวนานจนนำไปสู่การทุจริต ในสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ยุคคสช.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แทรกแซงองค์กรอิสระ และส.ว.ก็ถูกสรรหาโดยพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ต้องนับตั้งแต่เริ่มการผูกขาดอำนาจที่ตรวจสอบไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ประวัติศาสตร์การเมืองไม่มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งคนใดอยู่เกิน 8 ปีด้วย
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า และ 3.ที่สำคัญการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มาก พล.อ.ประยุทธ์ทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรม ใช้ความมั่งคงทางทหารมาบริหารประเทศ เมื่อรวม 3 มิติเข้าด้วยกัน ทั้งข้อกฎหมาย ป้องกันการผูกขาดและการทุจริต และการป้องกันความเสียหายของประเทศ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ความรู้สึก พอใจไม่พอใจ ชอบหรือไม่ชอบพล.อ.ประยุทธ์ แต่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพ้นจากนายกฯ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในงานเสวนา “8 ปีประยุทธ์ อยากไปต่อ แต่ต้องพอแค่นี้”
นายสุทิน กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจเรื่องที่สังคมกำลังเข้าใจผิด หลายคนบอกเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ ก็บอกว่าเป็นเรื่องของศาล นอกจากนี้ ยังมีการที่จะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตนว่าเป็นเรื่องที่ผิด เรื่อง 8 ปีเป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ที่จะตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร และประชาชนจะว่าอย่างไร สุดท้ายจึงไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ในการชี้ขาดตัดสินวาระของนายกฯ ไม่ใช่เรื่องข้อกฎหมายอย่างเดียว อย่าลืมเรื่องเจตนารมณ์ด้วย จะไปเอาเฉพาะตัวบทไม่ได้ ต้องเอาเจตนารมณ์ก่อนว่ามีปัญหาอะไรจึงต้องร่างกฎหมายนี้ขึ้นมา รวมถึงต้องดูหลักข้อเท็จจริงว่าต้องเป็นนายกฯ กี่ปี พล.อ.ประยุทธ์ นับเลขเป็นหรือไม่ คุณจะนับปีไหนก็ตาม แต่เรื่องคือมันกี่ปี หาก 8 ปีเข้าข้ออันตรายตามที่เขากังวลหรือไม่ รัฐธรรมนูญมาตรา 158 พูดชัดว่าไม่เกิน 8 ปี และไม่จำเป็นต้องนับต่อเนื่อง
นายสุทิน กล่าวต่อว่า หากจะยกเว้นพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่มาจากรัฐประหาร ก็เขียนง่ายๆ คือยกเว้นรัฐมนตรีที่มาจากกระบวนการสรรหาตามมาตรา 158 แต่ที่ไม่เขียนเพราะเขาไม่ได้เจาะจง ฉะนั้น นายกฯ ที่จะต้องอยู่ในวาระ 8 ปีจะต้องเป็นนายกฯ จริงๆ หลักยึดที่ไม่ต้องไปพูดกันมาก คือ โปรดเกล้าฯ หากเอาการโปรดเกล้าฯ มาจะดีกว่ากระบวนการสรรหา
หากคุณจะอ้างว่าสเปกนายกฯ ปี 57 ไม่ควรเข้า 8 ปี ดังนั้น นายกฯ ปี 57 ควรจะอยู่ 4 ปีด้วยซ้ำ ไม่ควรถึง 8 ปี เพราะอันตรายมาก เมื่อดูที่เจตนารมณ์คือคนอยู่นานจะสะสมอิทธิพล ประเทศอื่นไม่จำเป็นต้องเขียนเพราะเขามีวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ดี รู้จักพอ แต่ประเทศไทยไม่รู้จักพอ หากไม่เขียนไว้ก็จะได้มีการฆ่ากัน เพราะอยู่แล้วก็สืบทอดอำนาจ ฉะนั้นการเขียน 8 ปีไว้ก็ป้องกันการสั่งสมอิทธิพล
“ต้องชม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่สามารถไปต่อได้ แต่มีความละอายที่ประชาชนไม่เอาแล้ว แกบอกพอแล้ว หลักประชาธิปไตยต้องรับฟังประชาชน สำคัญกว่านั้นคือต้องรับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศ หากรู้ว่าอยู่ไปประเทศจะวิกฤตและขัดแย้ง คุณต้องเสียสละ
วันนี้ประชาชนคิดอย่างไรให้ฟังเขา หากอยู่ต่อจะเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณจะทำงานได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ไม่ใช่คุณเสียหาย ประเทศชาติเสียหาย เศรษฐกิจพัง ใครจะรับผิดชอบ หากถึงวันที่คุณอิ่มตัวแล้ว ประเทศชาติพังยับแล้วมันก็ไม่ได้ คุณไม่ใช่นายกฯ ตามวัฒนธรรมประชาธิปไตย คุณเป็นนายกฯ เผด็จการที่อาศัยตัวหนังสือให้คุณเท่านั้นเอง” นายสุทิน กล่าว