136ปีชาตกาลพระสารคามมุนี – วันอังคารที่ 9 ก.พ.2564 น้อมรำลึกครบรอบ 136 ปี ชาตกาล พระสารคามมุนี (สาร พุทธสโร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม รูปที่ 5
มีนามเดิม “สาร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม เกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2428 ที่บ้านใต้นางใย ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม บุตรของนายเมืองแสน สุวรรณดี และ นางกำมา ภวภูตานนท์
อายุครบ 20 ปี อุปสมบท ที่อุโบสถวัดอุทัยทิศ จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2448 โดยมีพระครูโยคีอุทัยทิศ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดชัย วัดอุทัยทิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์ดี วัดอุทัยทิศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พุทธสโร
พำนักอยู่ที่วัดอุทัยทิศ ในปี พ.ศ.2249 พระเจริญราชเดช (อุ่น ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) เห็นว่าท่านเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ จึงนำท่านไปฝากที่วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) กรุงเทพฯ เป็นเวลา 14 ปี ศึกษามูลกัจจายนะ ที่สำนักสมเด็จพระวันรัต (เผื่อน)
ต่อมา พ.ศ.2454 สมเด็จพระวันรัต (เผื่อน) อนุมัติให้เข้าอบรมศึกษาเล่าเรียนบาลีไวยากรณ์และนักธรรมบาลี จนมีความรู้ชำนิชำนาญ เข้าสอบนักธรรมตรี ในสนามหลวง ได้รับประกาศนียบัตร ในปี พ.ศ.2458 เป็นผู้มีอุตสาหะเชี่ยวชาญทางพระธรรมวินัย ได้รับคำนิยมยกย่องจากพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ในขณะนั้น
ครั้นต่อมา พระเจริญราชเดช (อุ่น ภวภูตานนท์) ถึงแก่อนิจกรรม นายทองดี อัตถากร จึงเดินทางไปอาราธนารับท่านมาในงานพระราชทานเพลิง หลังจากงานพระราชทานเพลิงเสร็จแล้ว นายทองดีกราบอาราธนาให้ท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาชัย เพื่อเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แต่ท่านไม่ยินยอม เพราะอยากศึกษาพระธรรมวินัยที่ลึกซึ้งต่อไปอีก
ญาติโยมเห็นว่า จังหวัดมหาสารคาม ทั่วทุกอำเภอ ขณะนั้นมี 6 อำเภอ ยังไม่มีครูพระปริยัติธรรมที่มีความเชี่ยวชาญ จึงได้ปรึกษาหารือกับบรรดามัคนายกวัดต่างๆ เห็นว่าท่านผู้นี้สมควรเป็นครูสอนที่สามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนา
จึงมอบหมายให้นายทองดีเดินทางติดตามลงไปหาท่านถึงวัดพระเชตุพนฯ ทั้งรับรองกับท่านว่าจะเป็นโยมอุปัฏฐากและทำนุบำรุงวัดมหาชัย จนเต็มความสามารถตลอดชีวิต
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2465 เป็น เจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม พ.ศ.2469 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2475 เป็นเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2477 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูสารคามมุนี พ.ศ.2480 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะจังหวัดชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ.2482 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสารคามมุนี ศรีสินธุคณาภิบาล สังฆปาโมกข์
พ.ศ.2499 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระสารคามมุนี ศรีสินธุคณาภิบาล ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
ช่วงบั้นปลายของชีวิต ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร อาพาธด้วยโรคชราและโรคหัวใจ สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2504
สิริอายุ 76 ปี พรรษา 56
เชิด ขันตี ณ พล