วันนี้ (22 เม.ย.65) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่ากระทรวงสาธารณสุขได้นำเสนอข้อมูลการระบาดของโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งคล้ายกันเกือบทั้งโลก คือติดเชื้อสูงขึ้นในช่วงแรก และค่อยๆ ลดลง เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงเช่นกัน จึงเห็นภาพการประกาศผ่อนคลายของแต่ละประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศไทยก็หลุดออกมาจากบัญชีที่เฝ้าระวังสูงของสหรัฐอเมริกา
วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,808 คน และอีกเท่าตัวเป็น ATK ขณะที่อาการหนัก 1,985 คน โคม่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 915 คน และมีผู้เสียชีวิต 128 คน การเข้าสู่โรคประจำถิ่น อัตราการเสียชีวิตต้องไม่เกิน 0.1% ต่อเนื่องกัน 2 สัปดาห์ ขณะนี้ไทยอัตราการเสียชีวิตระลอกโอมิครอน เฉลี่ยเฉพาะ PCR คือ 0.31% จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 63 ทั้งสิ้น 27,520 คน คิดเป็น 0.67% จำเป็นต้องช่วยกันลดอัตรการเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่พบในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบ การประมาณการณ์จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ และโคม่า กราฟสถานการณ์จริงอยู่เหนือเส้นสีเหลือง ส่วนอัตราการการเสียชีวิตแตะกราฟเส้นสีเหลือง
สำหรับประเทศไทยการปรับโควิด-19 จากโรคระบาดร้ายแรงเข้าสู่โรคประจำถิ่น ยังเป็นระยะที่ต้องต่อสู้ สถานการณ์แต่ละจังหวัดแตกต่างกัน ดังนี้
ขาขึ้น ระยะต่อสู้ 21 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน แพร่ ลำปาง พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ สกลนคร บึงกาฬ เลย อุดรธานี ขอนแก่น นครพนม หนองคาย ยโสธร มหาสารคาม ศรีสะเกษ นนทบุรี นครนายก กาญจนบุรี และอุทัยธานี
ระยะทรงตัว 44 จังหวัด ได้แก่ กทม. แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ น่าน เพชรบุรณ์ อุตรดิตถ์ พะเยา พิจิตร ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สิงห์บุรี ลพบุรี ตาก สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม อ่างทอง สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี พัทลุง พังงา ชุมพร ชลบุรี สมุทรปราการ มุกดาหาร ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง ปราจีนบุรี ตราด สระแก้ว หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุบลราชธานี นคราชสีมา ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ระยะขาลง 12 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ ได้แก่ เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง ตรัง นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส