วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 2024

โควิด-19 : สธ. จับตา กทม. สายพันธุ์เดลตาระบาดแซงอัลฟาใน 3 เดือน

โควิดในกทม.

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เดลตา หรือที่รู้จักในชื่อ “สายพันธุ์อินเดียเดิม” เริ่มมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์คาดการณ์ว่าภายใน 3 เดือนนี้ มีโอกาสแซงสายพันธุ์อัลฟา หรือที่รู้จักในชื่อ “สายพันธุ์อังกฤษเดิม”

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานยอดผู้ป่วยหน้าใหม่ของไทยประจำวันที่ 28 มิ.ย. จำนวน 5,406 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 9 ราย กลายเป็นสถิติสูงสุดสำหรับการติดเชื้อในโลกภายนอก ด้วยยอดทะลุครึ่งหมื่น รวมมียอดผู้ป่วยสะสมนับจากปี 2563 ทั้งสิ้น 249,853 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 1,934 ราย

กรุงเทพมหานครยังเป็นพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดสูงสุดถึง 1,678 รายในรอบ 24 ชม. รวมมีผู้ป่วยสะสมในการระบาดระลอก 3 (1 เม.ย.-28 มิ.ย.) จำนวน 69,301 ราย และมีคลัสเตอร์ต้องเฝ้าระวังถึง 111 คลัสเตอร์

ล่าสุด นพ. ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาแถลงยืนยันว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) คนแรกของกรุงเทพฯ แต่ใช้คำว่า ไม่ได้เจอเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ติดเชื้อจากบุตรชายที่เดินทางมาจาก จ.นราธิวาส

ในการเปิดแถลงข่าว “การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด 19 ในประเทศไทย” นพ. ศุภกิจสรุปภาพรวมการแพร่ระบาดระลอกสาม พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) 86.31% มียอดผู้ป่วยสะสม 7,859 ราย รองลงมาคือสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) 12.3% มียอดผู้ป่วยสะสม 1,120 ราย พบใน 35 จังหวัด และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) 1.39% มีผู้ป่วยสะสม 127 ราย พบใน 8 จังหวัด

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ทว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 มิ.ย.) นพ. ศุภกิจชี้ว่า สายพันธุ์เดลตาเริ่มมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในกรุงเทพฯ โดยมีผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ด้วยสายพันธุ์นี้ 32.39% หรือคิดเป็นจำนวน 331 รายภายในสัปดาห์เดียว ส่วนใหญ่อยู่ในแคมป์คนงาน ส่วนสายพันธุ์อัลฟาคิดเป็น 67.51%

เขาทำนายว่าหากสัดส่วนยังขึ้นเช่นนี้ “ไม่เกิน 2-3 เดือน ยูเค (สายพันธุ์อัลฟา) จะถูกเดลตาแซง”

ส่วนใน จ.อื่น ๆ ที่พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์เดลตาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ อุดรธานี 23 ราย, สกลนคร 22 ราย, เลย 20 ราย, หนองบัวลำภู 12 ราย, นครสวรรค์ 11 ราย, พระนครศรีอยุธยา 7 ราย, กาฬสินธุ์ 6 ราย, อุตรดิตถ์ บึงกาฬ จังหวัดละ 4 ราย, ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครพนม 3 ราย, อุทัยธานี หนองคาย จังหวัดละ 2 ราย และพะเยา เพชรบูรณ์ ชลบุรี มหาสารคาม จังหวัดละ 1 ราย

เผยสายพันธุ์เบตาคนแรกใน กทม. คือพ่อติดจากลูกที่มาจากนราธิวาส

ส่วนการระบาดของสายพันธุ์เบตายังอยู่ในชายแดนภาคใต้เป็นหลัก โดยสัดส่วนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 5.05% รวมมีผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ 89 รายภายในสัปดาห์เดียว ส่วนใหญ่ถึง 84 รายอยู่ใน จ.นราธิวาส, ยะลา 2 ราย, พัทลุง 1 ราย, สุราษฎร์ธานี 1 ราย และกรุงเทพฯ อีก 1 ราย

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

นพ. ศุภกิจชี้แจงว่า ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบตาคนแรกของกรุงเทพฯ เป็นลูกจ้างในตลาดแห่งหนึ่ง สันนิษฐานว่าได้รับเชื้อจากบุตรชายที่เดินทางจาก จ.นราธิวาส มาเยี่ยมพ่อในกรุงเทพฯ ซึ่งในเวลานั้นบุตรชายไม่มีอาการป่วย แต่พอกลับบ้านไปไม่สบายและตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเมื่อตรวจเชื้อพ่อก็พบผลเป็นบวกและได้รับการยืนยันสายพันธุ์เมื่อ 25 มิ.ย. ขณะนี้พ่อและลูกรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาลแล้ว และยังมีญาติอีก 2 คนติดเชื้อโควิดด้วย อยู่ระหว่างรอผลตรวจสายพันธุ์ ส่วนเพื่อนร่วมงานที่ทำงานอยู่ในที่เดียวกับผู้ป่วยในกรุงเทพฯ อีก 6-7 คน ไม่พบการติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม อธิบดีรายนี้ฝากบอกประชาชนว่าไม่ต้องตกอกตกใจ ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าโผล่มา 1 รายแล้วคุมอยู่ ก็ไม่มีปัญหา

“ถ้ามีคนเดียว เราล็อกอยู่ ก็อาจจะหายไป และสัปดาห์หน้าอาจไม่มี แต่เนื่องจากเราไม่ได้ห้ามการเดินทางของผู้คนในประเทศ ดังนั้นก็มีโอกาส.. โดยข้อเท็จจริงคือสายพันธุ์เบตาอำนาจการแพร่กระจายไม่มาก ที่เราค่อนข้างห่วงคือสายพันธุ์อินเดียที่คืบคลานและมีสัดส่วนมาก” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว

นพ. ศุภกิจยอมรับว่า สายพันธุ์เดลต้าที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ 30% ทำให้การสืบค้นต้นตอการแพร่ระบาดค่อนข้างยาก เพราะอาจติดโดยอ้อม ติดจากวง 2 และวง 3 ก็ได้ แต่ในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ยังเชื่อมโยงกับแคมป์คนงานหลักสี่

ในระหว่างแถลงข่าว นพ. ศุภกิจได้จำแนกพื้นที่กรุงเทพฯ กับภูมิภาค และแบ่งเป็นช่วงเวลา ทำให้พบการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนสายพันธุ์โควิด-19 ในไทย

สัดส่วนสายพันธุ์โควิด-19 ที่เฝ้าระวัง. .  .

อวดประสิทธิภาพซิโนแวค ป้องกันติดเชื้อสายพันธุ์อัลฟาได้ 90%

วันเดียวกัน กรมควบคุมโรคได้รายงานผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคในไทย ให้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี – Emergency Operation Center) ของ สธ. รับทราบ พบว่า หลังได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เป็นเวลา 14 วัน ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่ จ.ภูเก็ต อยู่ที่ 90.7% สมุทรสาครอยู่ที่ 90.5% และเชียงรายอยู่ที่ 82.2% แต่ถ้าฉีดวัคซีนเข็มเดียว จะป้องกันการติดเชื้อได้ 39.4%

นพ. ศุภกิจระบุว่า นี่เป็นข้อมูลจริง ไม่ใช่ในหลอดทดลอง ทว่าเป็นข้อมูลย้อนหลังในช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการระบาดของสายพันธุ์อัลฟา และอาจมีสายพันธุ์เดลตาบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ปลัด สธ. ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรคทำข้อมูลเพิ่มเติม เพราะหลายประเทศสรุปแล้วว่าวัคซิโนแวคป้องกันการติดเชื้อได้ไม่มาก แต่ป้องกันการเสียชีวิตได้มาก อย่างบุคลากรการแพทย์ใน จ.เชียงราย ที่ติดเชื้อโควิด ก็ไม่มีใครเสียชีวิต

คำบรรยายวิดีโอ,

โควิด-19 : เชื้อกลายพันธุ์เกิดขึ้นได้อย่างไร วัคซีนจะป้องกันได้ไหม

ส่วนจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ผู้รับซิโนแวคเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันหรือไม่นั้น นพ. ศุภกิจยังไม่ขอสรุปเช่นนั้น โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลที่เพียงพอก่อน เพราะถ้าจะฉีดเข็ม 3 ก็ต้องหาวัคซีนมาเพิ่มอีก 60 ล้านโดส แต่สถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ยืนยันว่าการฉีดวัคซีน 2 เข็มยังเอาอยู่ อย่างไรก็ตามข้อมูลที่นำเสนอในอีโอซีวันนี้ สายพันธุ์เดลต้ายังมีไม่มาก ทำให้ได้ตัวเลข 90% แต่ถ้าเดลต้ามาก ตัวเลขจะลดลงหรือไม่ ก็เป็นคำถาม

สถานการณ์ในรอบ 24 ชม.

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทยในรอบ 24 ชม. จากการรายงานของ ศบค. มีข้อมูลสำคัญ ดังนี้

  • มีผู้ป่วยรายใหม่ 5,406 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 5,379 ราย, ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 9 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 18 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 249,853 ราย หายป่วยแล้ว 202,271 ราย
  • มีผู้ป่วยสะสมในการระบาดระลอกใหม่ ตั้งแต่ 1 เม.ย. จำนวน 220,990 ราย หายป่วยแล้ว 174,845 ราย
  • มีผู้ป่วยรักษาตัวใน รพ./รพ. สนาม 45,648 ราย โดยมี 1,806 รายที่อาการหนัก และ 510 รายที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
  • มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 22 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,934 ราย คิดเป็น 0.77%
  • พื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อหน้าใหม่สูงสุด 5 อันดับแรกของประเทศในวันนี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ (1,678 ราย), ตาก (453 ราย), สมุทรปราการ (395 ราย), ชลบุรี (390 ราย) และสมุทรสาคร (295 ราย)

เริ่มมาตรการกักตัวที่บ้าน หลังเกิดปัญหาเตียงไม่พอ

จำนวนผู้ป่วยหนักที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ทำให้ปัญหาเตียงไม่พอรองรับเริ่มกลับมา และมีผู้รอเตียง ทำให้ สธ. เริ่มนำมาตรการกักตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) มาใช้ตั้งแต่วันนี้ (28 เม.ย.) ตามการเปิดเผยของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. แต่จะใช้เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน

นพ. สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยหน้าใหม่รอเตียง 400-500 ราย/วัน รวมผู้ป่วยตกค้าง 1,000 ราย ซึ่งแนวทางกักตัวเองที่บ้านจะนำมาใช้กับคน 2 กลุ่มคือ ผู้ป่วยไม่มีอาการ (ผู้ป่วยสีเขียว) ในระหว่างรอเตียงเพื่อการรักษา และผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลแล้วอาการดีขึ้นใน 10 วัน ก็จะให้กลับไปแยกกักตัวต่อที่บ้านอีก 4 วัน

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

นพ. สมศักดิ์กล่าวว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) ได้อนุมัติวงเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว แบ่งเป็น 1. จัดซื้ออุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยแยกกัก เครื่องวัดระดับออกซิเจนในเลือด ที่วัดอุณหภูมิร่างกาย ยาดูแลรักษา ยาฟาวิพิราเวียร์ ระบบการดูแลผู้ป่วยทางไกล(Tele Net) และ 2. สนับสนุนโรงพยาบาลวันละ 1,000 บาท/ราย เพื่อเป็นค่าติดตามและค่าอาหาร 3 มื้อส่งให้กับผู้ป่วย

อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา รพ.ราชวิถี ได้ศึกษาแนวทางแยกกักที่บ้านในผู้ป่วยสีเขียวที่สมัครใจ 18 ราย ซึ่งมีผู้สูงอายุ 70 ปีรวมอยู่ด้วย พบว่ามี 1 รายที่อาการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ต้องส่งตัวเข้า รพ. เพื่อรับการรักษา ส่วนที่เหลือเมื่อครบ 14 วันก็ไม่มีอาการใด ๆ

กลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สามารถแยกตัวได้ที่บ้าน มีเงื่อนไข ดังนี้

  • ผู้ป่วยสมัครใจ
  • ต้องมีอายุน้อยกว่า 60 ปี
  • เป็นผู้ป่วยไม่มีอาการ สุขภาพแข็งแรง
  • พักอยู่คนเดียว หรือมีผู้อยู่ร่วมในที่พักไม่เกิน 1 คน
  • ไม่มีภาวะอ้วน ดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กก./ม.2 หรือน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กก.
  • ไม่ป่วยเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ และโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

สำหรับแนวทางการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่บ้าน

  • ให้ผู้ป่วยวัดระดับออกซิเจนในเลือดวันละ 2 ครั้ง และรายงานแพทย์ผ่านระบบวิดีโอคอล วันละ 1-2 ครั้ง
  • ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้าน
  • ไม่เข้าใกล้หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุหรือเด็กอย่างเด็ดขาด
  • แยกห้องพักและของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น
  • รับประทานในห้องของตนเอง
  • สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้องที่พักอาศัย
  • ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผู้อื่นหรือหยิบจับของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น
  • แยกซักเสื้อผ้า ผ้าขนหนู และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอก
  • แยกใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้คนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ

ฉีดวัคซีนได้ 9.1 ล้านคน

ศบค. ตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ประชาชน 50 ล้านคน อันเป็นการครอบคลุม 70% ของประชากรทั้งประเทศภายในสิ้นปีนี้ เพื่อ “สร้างภูมิคุ้มกันหมู่” ให้เกิดขึ้น

ข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย. พบว่า มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เพิ่ม 93,577 โดส ทำให้ภาพยอดสะสมของประชาชนที่ได้รับวัคซีนอยู่ที่ 9,147,512 ราย คิดเป็น 13.07% ของประชากร

มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว 6,537,851 ราย คิดเป็น 9.34% ของประชากร

มีผู้ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้ว 2,609,661 ราย คิดเป็น 3.73% ของประชากร

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

ด้านบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าส่งเอกสารข่าวให้สื่อมวลชน (28 มิ.ย.) โดยระบุว่า จะส่งมอบวัคซีนให้ สธ. ได้ครบ 6 ล้านโดสภายในสัปดาห์นี้ หลังก่อนหน้านี้ บริษัทได้ส่งมอบวัคซีนให้ สธ. แล้ว 4.7 ล้านโดส

นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า แอสตร้าเซนเนก้าจะดำเนินการส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้จะเริ่มส่งออกวัคซีนไปยังประเทศต่าง ๆ ในต้นเดือน ก.ค. โดย 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศได้ถูกสำรองไว้เพื่อผลิตวัคซีนให้กับไทยตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส จากวัคซีนทั้งหมด 180 ล้านโดสที่ผลิตโดยสยามไบโอไซแอนซ์

มหาสารคาม

มหาสารคาม

พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักสิลานคร

Related Posts

Next Post

บทความ แนะนำ

No Content Available

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การค้าวัสดุก่อสร้าง การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การทำเกลือให้บริสุทธิ์ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การผลิตรองเท้า การผลิตเกลือดิบ การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ความงาม/สุขภาพ ตรวจหวย ธุรกิจ บริการติดตั้งประปา บริษัท มหาสารคาม มูลนิธิ ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.มหาสารคาม เขต 1 สพป.มหาสารคาม เขต 2 สพป.มหาสารคาม เขต 3 สพม.เขต 26 สมาคม หน่วยงานราชการ อบต. เครื่องดื่ม เอสเอ็มอี แฟรนไชส์ โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

Welcome Back!

Login to your account below

Create New Account!

Fill the forms below to register

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.