ทั่วไป
17 ต.ค. 2564 เวลา 15:20 น.
“กรมทางหลวง” อัพเดทสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 5 สายทาง และการจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง
“กรมทางหลวง” อัพเดทสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 5 สายทาง และการจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเนื่องจากเส้นทางคมนาคมได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อีกทั้งท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งสำรวจ ซ่อมแซม และแก้ปัญหาเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย
จึงเร่งให้หน่วยงานในสังกัดให้เร่งซ่อมแซมฟื้นฟูเส้นทางเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งให้เร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจรในพื้นที่เกิดเหตุอุทกภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและเฝ้าระวังสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้บางพื้นที่ยังได้รับอิทธิพลจากพายุทำให้มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 5 สายทาง และการจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง รายละเอียดดังนี้
ทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 5 สายทาง ดังนี้
1. ทล.2 ท่าพระ – ขอนแก่น ระดับน้ำสูง 200 เซนติเมตร
2. ทล.213 มหาสารคาม – หนองขอน ระดับน้ำสูง 210 เซนติเมตร
3. ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง ระดับน้ำสูง 125 เซนติเมตร
4. ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ระดับน้ำสูง 175 เซนติเมตร
5. ทล.340 สาลี – สุพรรณ ระดับน้ำสูง 125 เซนติเมตร
อ่านข่าว : พื้นที่เกษตรเสียหาย 1.1 ล้านไร่ น้ำท่วมกระทบ”ข้าว-มัน”มากสุด
ทางหลวงการจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง ดังนี้
1. จังหวัดขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
– ทล.2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม. ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 เซนติเมตร
– ทล.2065 พล – ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
– ทล.2065 พล – ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์
2. จังหวัดมหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล.213 มหาสารคาม – หนองขอน ช่วง กม. ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ระดับน้ำสูง 210 เซนติเมตร
3. จังหวัดนครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
-ทล.2150 คง – โนนไทย ช่วง กม. ที่ 40+000-41+000 ระดับน้ำสูง 20 – 55 เซนติเมตร
– ทล.2369 พระทองคำ – ดอนไผ่ กม. ที่ 7+800-8+800 ระดับน้ำสูง 30 – 50 เซนติเมตร
4. จังหวัดชัยภูมิ (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
– ทล.201 ช่องสามหมอ – บ้านแข้ กม. ที่ 185+000-185+300 (จุดกลับรถใต้สะพาน) ระดับน้ำสูง 20 – 60 เซนติเมตร
– ทล.201 ช่องสามหมอ – บ้านแข้ กม. ที่ 188+000-188+300 (จุดกลับรถใต้สะพาน) ระดับน้ำสูง 10 – 60 เซนติเมตร
– ทล.2484 ทางเลี่ยงเมืองภูเขียว กม. ที่ 7+050-7+150 ระดับน้ำสูง 30 – 50 เซนติเมตร
5. จังหวัดนนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
– ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า – ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรก) ระดับน้ำสูง 30 – 35 เซนติเมตร
– ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า – ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 17+000 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก) ระดับน้ำสูง 30 – 40 เซนติเมตร
– ทล.307 แยกสวนสมเด็จ – สะพานนนทบุรี ช่วง กม. ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง
30 เซนติเมตร
6. จังหวัดอ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
– ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 125 เซนติเมตร
– ทล.32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร
7. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
– ทล.347 บางกระสั้น – บางปะหัน ช่วง กม. ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 15 เซนติเมตร
– ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 เซนติเมตร
– ทล.3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 เซนติเมตร
8. จังหวัดสุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
– ทล.33 สุพรรณบุรี – นาคู ช่วง กม. ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 85 เซนติเมตร
– ทล.340 สาลี – สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม ระดับน้ำสูง 125 เซนติเมตร
9. จังหวัดปราจีนบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 33 ประจันตคาม – พระปรง ช่วง กม.ที่ 171+400 – กม. ที่ 171+900 ระดับน้ำสูง 15 – 50 เซนติเมตร
10. จังหวัดกาญจนบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
– ทล. 3390 หนองรี – บ่อยาง ช่วง กม.ที่ 3+200 – กม. ที่ 4+200 ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1