เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2564 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในช่วงเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นมาตรการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามกลไกของสภา ที่เข้มข้นที่สุด โดยหลังจากการอภิปรายจะต้องให้ ส.ส.ลงมติว่าจะไว้วางใจให้รัฐบาลบริหารงานต่อไปหรือไม่ หากเสียงลงมติไม่ไว้วางใจมีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพ้นจากตำแหน่ง นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ โดยใช้กลไกสภา
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
พรรคเพื่อไทยได้หารือเรื่องนี้มาแล้วระยะหนึ่ง จนได้ข้อสรุปว่าจะต้องอภิปรายเพื่อทำให้สังคมได้ตระหนักรู้ และเห็นว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพชุดนี้ ทำงานไม่ได้เรื่อง ล้มเหลว ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าปล่อยให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อไป ประชาชนก็ต้องลำบากมากขึ้น สถานการณ์ก็มีแต่จะหนักมากขึ้น ทางรอดน่าจะมีเพียงทางเดียว คือหาคนใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความหวังอยู่บ้าง เรายึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ทำงานการเมืองมาแล้วทั้งในสภาและนอกสภาที่เป็นการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน สถานการณ์ขณะนี้ถือว่าหนักมาก พรรคต้องหาหนทางแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการใช้กลไกลของสภา ที่เป็นหนทางการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัยกับประเทศมากที่สุด
นายสุทิน กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ พรรคมีเป้าหมายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะตัวนายกฯ และรัฐบาล เพราะประเทศจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีผู้นำที่มีศักยภาพ มีความสามารถมาแก้ไขปัญหา เราไม่เกี่ยงว่าจะเป็นใคร ขอให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถจริงๆ มีที่มาตามครรลองกติกาประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ประชาชนก็จะยอมรับ แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาทำหน้าที่ เราก็พร้อม เพราะเชื่อว่าเราทำได้ดีกว่ารัฐบาลชุดนี้แน่นอน
เราไม่ห่วงว่าเสียงของฝ่ายค้านในสภาจะยังน้อยกว่าเสียงของฝ่ายรัฐบาล แม้การนับมือในสภาอาจล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลความไม่ดีไม่งามของรัฐบาล ที่ซุกไว้ให้ประชาชนและสังคมได้เห็น จะทำให้ประชาชนตระหนัก แม้ยกมือในสภาจะแพ้ แต่นอกสภาจะชนะใจประชาชน ในที่สุดรัฐบาลก็จะไปไม่รอด การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงแบบไหน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเปลี่ยนนายกฯ โดยใช้กลไกสภา
“วันนี้ประเทศเจอปัญหาหนักมากแล้ว ประชาชนประจักษ์แล้วว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ได้ ภัยอันตรายกำลังรออยู่ข้างหน้า ความตายอันเกิดจากเชื้อโรคและความอดอยากเกิดขึ้นอย่างมาก สังคมเรียกร้องทั่วไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ออกไป ไม่แน่อาจเกิดกรณีพรรคร่วมรัฐบาลประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลตั้งแต่ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเริ่มขึ้น หรือพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคยกมือโหวตสวนรัฐบาล เพราะอาจหาจังหวะตีจากการร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว”นายสุทิน กล่าว