9 ก.พ.64- นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)จะยื่นญัตติด่วนขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไปยังศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจากญัตติดังกล่าวเชื่อมโยงสถาบันพระมหากษัตริย์อาจขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า กระทำดังกล่าวถือว่าไม่ดี เพราะวันนี้ควมรู้สึกของประชาชนและสังคมจดจ่ออยู่ที่วันอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้สะดุดทั้งการทำงานและอารมณ์สังคม แต่ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถยื่นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ยื่นก็ต้องคิดด้วยว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ได้รับการบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุมแล้วนั้น เพราะทีมกฎหมายสภาฯและประธานสภาฯพิจารณารอบคอบแล้วว่าถูกกฎหมาย ฉะนั้น คนจะยื่นต้องเคารพประธานสภาฯและความเห็นข้างต้นแล้ว
“การยื่นญัตติดังกล่าวเป็นภาระของสภาฯ เมื่อพรรคพลังประชารัฐยื่นแล้วต้องรอดูว่าสภาฯจะว่าอย่างไร และความจริงถ้าคิดจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็สามารถยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เลย” ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าว
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อฝ่ายค้านอ่านญัตติจะอ่านข้ามไป เพื่อไม่ให้เชื่อมโยงกับสถาบัน นายสุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่ขัดแย้งก็ไม่มีความจำเป็นต้องอ่านข้าม แต่ตอนอภิปรายคิดว่าสามารถขอความร่วมมือกันได้ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของบุคคล คนอภิปรายก็มีการคำนึงและระมัดรังเองอยู่แล้ว ใครจะนำมาเล่นเป็นเกมการเมืองก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
ถามต่อว่าถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจพาดพิงสถาบัน ฝ่ายรัฐบาลเสนอให้เป็นการประชุมลับ ฝ่ายค้านจะเตรียมรับมืออย่างไร นายสุทิน กล่าวว่า ไม่น่าจะถึงขั้นนั้น เพราะประธานสภาฯคงได้ตั้งหลักในการควบคุมการประชุมอยู่แล้ว อีกทั้งในญัตติของฝ่ายค้านเป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีว่าบริหารประเทศส่งผลอย่างไร ไม่ได้เป็นการอภิปรายสถาบันให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แต่เป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยากให้ดูว่าฝ่ายค้านอภิปรายในมุมตัวของนายกฯ ดังนั้น จึงไม่หนักใจที่จะมีการเสนอให้ประชุมลับ
ถามด้วยว่าทำไมพปชร. ถึงยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายสุทิน กล่าวว่า เป็นความวิตกกังวลของรัฐบาลที่อาจจะตอบไม่ได้ นายกฯอาจจะจนมุม หรือการแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐบาลยังไม่จบ จึงงัดทุกอย่างออกมา อยากฝากว่าอย่านำปัญหาภายในของรัฐบาลมาเป็นปัญหาของสภาฯและประชาชน.