เป็นที่น่าสะเทือนใจกับการจากไปของ “นพ.ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์” คุณหมอผู้เป็นที่รักของทุกคนในจังหวัดมหาสารคาม ที่ต้องจากไปเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 จากการรักษาคนไข้ที่ต้องสงสัยติดเชื้อ แต่พวกเขากลับบอกข้อมูลคุณหมอไม่หมด จนเชื้อได้แพร่เข้าสู่ร่างกายคุณหมอกระทั่งท่านเสียชีวิต
พิธีศพของคุณหมอปัญญา ถูกจัดอย่างเรียบง่าย ครอบครัวต้องนำศพไปเผาที่ อ.โกสุมพิสัย เพราะต้องใช้เตาที่ใช้ความร้อนสูง
“ดอกไม้วางหน้าคลินิก” เมื่อผู้ที่เป็นที่รักจากไป ไม่สามารถไปร่วมพิธีได้ วันนี้เราจึงได้มองเห็นภาพของประชาชนในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม นำดอกไม้ไปวางไว้หน้าคลินิก
เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก “กุ้ง นฤนาทธนาเสฏฐ์” ได้เผยความในใจผ่านตัวอักษรถึงคุณหมอผู้เป็นที่รักและเป็นแบบอย่างว่า “จำได้ว่าเมื่อย้ายมาโรงพยาบาลมหาสารคาม อาจารย์ปัญญาบอกว่ารู้ไหมว่าผมเห็นคุณกุ้งตั้งแต่ตอนตัวเล็กๆ เห็นแม่เราขายของอยู่หน้าโรงพยาบาลตอนเช้า เลิกงานหรือตอนค่ำคืนดึกดื่นที่ท่านถูกตามให้มาดูคนไข้เร่งด่วนจะเห็นขายของโต้รุ่งยันเช้าตลอด ไม่หลับไม่นอน ประตูไม่เคยปิด ผมยังคิดว่าเขาจะเลี้ยงลูกไหวไหม ลูกเยอะมากตั้ง 11คน ยังแอบให้กำลังใจคุณแม่เราในใจตลอด จนวันนี้ผมดีใจที่เห็นเรามาเป็นพยาบาลทำงานด้วยกัน ท่านบอกว่าชีวิตการทำงานของพวกเรามีโอกาสสร้างบุญได้เยอะ อาจารย์อ่อนน้อมถ่อมตัว สุภาพกับทุกคน ยกมือไหว้คนไข้ที่อายุมากกว่า ใช้คำนำหน้าว่าคุณกับคนไข้ทุกครั้ง เวลาพาแม่ไปหาท่าน แม่เราบอกว่าเกรงใจคุณหมอ เมื่อก่อนก็แข็งแรง แต่พอแก่มาก็เป็นแบบนี้ แม่เลยพูดว่าแก่แบบนี้ก็ไม่น่าแก่เลยนะคุณหมอ แม่เราพูดช่วงที่ยังไม่เป็นอัลไซเมอร์ ท่านหัวเราะเสียงดังบอกคุณยายพูดดีมากแล้วกุมมือแม่ลูบพร้อมกับพูดให้กำลังใจไปมา ท่านดูแลอย่างละเอียดไม่รีบร้อน ท่านมีการวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ คนไข้หายเป็นปกติได้เร็ว ไปคลินิกบางทีก็ไม่คิดเงิน จะเขียนใบสั่งยาให้ไปเบิกที่โรงพยาบาล ท่านบอกเงินเดือนพวกเราน้อย ผมไม่ได้ลงทุนอะไรมาก เขียนใบสั่งยาเฉยๆ ไม่คิดค่าเสียเวลาอะไร
ท่านจำคนไข้ได้ จำเจ้าหน้าที่ทุกคน ทักทายด้วยความรัก เมตตาที่พวกเราสัมผัสได้ แม้ท่านจะเกษียณแล้ว เวลามาโรงพยาบาลพวกเราจะวิ่งเข้าหาทักทาย ดีใจที่ได้เจอท่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านบอกกุ้งจำได้ว่าคุณกุ้งทำดีอย่างที่ทำทุกวันนี้แล้วภายภาคหน้าจะดีเอง ชีวิตจะรุ่งเรือง ผมว่าเหมาะสมที่สุดแล้วที่มาอยู่จุดนี้ “ผมเชื่อว่าการทำดีเป็นสิ่งที่คนเราจำเป็นต้องทำ” คำๆ นี้จำได้เสมอ อยากจะบอกว่าเรารู้สึกสูญเสียคนที่รักอาจจะไม่เท่ากับพี่แหม่มและลูกๆ ของครอบครัวอาจารย์ปัญญา แต่เราเศร้าโศก ซึม อึมครึมในใจตลอดเวลาจนต้องระบายออกมา และป่านนี้ท่านคงมองมาแล้วยิ้มเหมือนปลอบประโลมพวกเรา รอยยิ้มที่ติดอยู่บนใบหน้าท่านตลอดเวลา เสียใจที่ไม่สามารถไปร่วมงานได้ด้วยการจำกัดคนและพิธีการที่ต้องตัดไปให้เวลาสั้นลงตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อ ไม่ว่าดวงวิญญาณของท่านไปสถิต ณ ที่แห่งใด โปรดจงรับรู้ว่าพวกเราเศร้าโศกและยังระลึกถึงคุณความดีของอาจารย์ปัญญาเสมอ สุดอาลัย