พระมหาพล ติกขปัญโญ พระนักพัฒนาการศึกษาสงฆ์
อริยะโลกที่ 6
วันเสาร์ที่ 28 ม.ค.2566 น้อมรำลึกครบ 22 ปี มรณกาล “หลวงปู่พระมหาพล ติกขปัญโญ” อดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของวงการสงฆ์เมืองมหาสารคาม ท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย มีเมตตาธรรมสูง น่าศรัทธายิ่ง
ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคลากรทาง พุทธศาสนา เป็นพระทรงคุณวุฒิในทาง พระปริยัติธรรม ตลอดชีวิตของท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาการศึกษาสงฆ์อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
มีนามเดิมว่า พล ประจุดทะสี เกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2476 ที่บ้านเลขที่ 35 บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม
หลังจากเรียนจบชั้น ป.4 ต้องลาออกมาทำไร่ ทำนา หาเลี้ยงช่วยครอบครัว แต่ด้วยความที่เป็นคนใฝ่รู้ และมีใจเอนเอียงเข้าหาพระธรรม
เมื่ออายุได้ 14 ปี บรรพชาที่วัดในหมู่บ้าน จากนั้นได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดเหนือแวงน่าง ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก
ครั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดโพธาราม ต.ขามป้อม อ.วาปีปทุม มีพระครูโพธาพิทักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้นเดินทางไปศึกษาบาลี ณ สำนักวัดเรียนวัดราชโอรสาราม เขตบางขุนเทียน จ.ธนบุรี หลังมุมานะตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างหนัก
พ.ศ.2503 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค
ขณะจำพรรษาอยู่วัดราชโอรสาราม ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และเป็นกรรมการตรวจข้อสอบบาลีส่วนกลาง
จากนั้นเดินทางกลับอีสานจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านขามป้อมบ้านเกิด ได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดบ้านขามป้อม เป็นกรรมการคุมห้องสอบธรรมสนามหลวง อำเภอวาปีปทุม
พ.ศ.2512 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านขามป้อม
ได้ชื่อว่าเป็นพระนักการศึกษาอย่างแท้จริง ได้พัฒนาการเรียนการสอนสำนักเรียนวัดบ้านขามป้อมจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วเขตอำเภอวาปีปทุม
พ.ศ.2517 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดอุทัยทิศ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม
ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาการเรียนการสอนพระภิกษุสงฆ์อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย รวมทั้งให้การสนับสนุนพระภิกษุ สามเณรที่ตั้งใจเรียน ส่งผลให้สำนักเรียนวัดอุทัยทิศมีชื่อเสียงโด่งดัง ในแต่ละปีมีพระภิกษุสามเณรเดินทางมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนที่วัดแห่งนี้หลายร้อยรูป โดยจัดอบรมติวเข้มก่อนสอบบาลีสนามหลวงให้ พระภิกษุสามเณรทุกปี
ลำดับงานด้านปกครอง พ.ศ.2520 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมือง พ.ศ.2526 รักษาการเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม
พ.ศ.2537 ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม
ใช้หลักสาราณียธรรมปกครองคณะสงฆ์อำเภอเมือง จัดประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองทุกเดือน รับฟังปัญหาและอุปสรรค เพื่อให้เข้าใจกฎระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ยังพัฒนาก่อสร้างถาวรวัตถุที่มั่นคงไว้มากมาย อาทิ ศาลาการเปรียญ เมรุเผาศพ ศาลาบำเพ็ญกุศล ฌาปนสถาน กุฏิสำนักงานคณะสงฆ์อำเภอเมือง กุฏิสงฆ์สำหรับพระภิกษุสามเณรที่เข้ามาศึกษาเล่าเรียน สร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรม เป็นต้น
ช่วงปัจฉิมวัย ตรากตรำรับใช้พระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน ด้วยความไม่เที่ยงของสังขารท่านอาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2544
สิริอายุ 67 ปี พรรษา 47
เชิด ขันตี ณ พล