ล่าข้ามจังหวัด ตำรวจ ทหารบุรีรัมย์ ยิงยางสกัดรถแก๊งขนยาบ้าส่งลูกค้า จับได้ 2 คน ยึดกว่า 6,000 เม็ด ลุยขยายผลตามจับเจ้าของยาบ้า เป็นหนุ่มผู้จัดการฝ่ายอนุมัติสินเชื่อไฟแนนซ์ กับแฟนสาวที่ไหวตัวทัน ขณะกำลังหนีไปกบดานที่ จ.มหาสารคาม ตามยึดยาบ้าได้อีกกว่า 16,000 เม็ด
วันนี้ (14 ส.ค.64) พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ , พ.ต.ท.วริษฐ์ ดำพลงาม รอง ผกก.สส.สภ.ลำปลายมาศ ,พ.ต.ท.ราชศักดิ์ เชียรรัมย์ สว.สส.สภ.คูเมือง ,ร.ต.อ.วินัย แสงอรุณ หัวหน้า ชปข.ตชด.215 พร้อมกำลังตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ,สภ.ปลายมาศ ,สภ.คูเมือง ,ตชด.215 ,ตชด.216 , กก.สืบสวน.บก.สส.ภ.3 , เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการข่าว ขกท.ศปก.ทบ.(มว.ขกส.2, ขกท.กกล.สุรนารี) และเจ้าหน้าที่ทหาร สขว.กอ.กรมน. ได้ร่วมกันวางแผนล่อซื้อยาเสพติด จากเครือข่ายแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ หลังได้มีการนัดติดต่อกับสายลับ ว่า จะส่งมอบยากันที่บริเวณริมถนนสาย อ.คูเมือง – อ.ลำปลายมาศ ต.คูเมือง อ.คูเมือง เมื่อถึงเวลานัดหมายได้พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย เป็นรถยนต์กระบะชนิดแคป ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน บร 4406 บุรีรัมย์ จอดข้างทางใกล้กับป้ายบอกทาง “อ.คูเมือง 7 กม.” และมีคนที่นั่งข้างคนขับได้ลงจากรถ และเดินไปที่บริเวณโคนเสาป้ายบอกทาง ก่อนจะรีบขึ้นรถ จากนั้นตำรวจที่ดักซุ่มอยู่ที่เห็นเหตุการณ์ และแจ้งให้ชุดที่เหลือเข้าตรวจสอบ
เมื่อตำรวจกำลังเข้าตรวจสอบ รถยนต์คันดังกล่าวได้พยายามขับรถหลบหนี โดยขับถอยหลังพุ่งชนรถของตำรวจ จนทำให้รถยนต์ของตำรวจพังเสียหาย ก่อนจะขับพุ่งชนรถของตำรวจอีกคันที่ดักขวางหน้า เพื่อที่จะฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่ออกไปให้ได้ ทำให้รถตำรวจเสียหายหลายคัน จนตำรวจต้องยิงล้อรถสกัดจับ จนยางรถแตกและไม่สามารถขับไปต่อได้ จึงเข้าทำการจับกุม พบเป็นผู้ต้องหาชาย 2 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายภาณุวัฒน์ หรือชีพ สดใส อายุ 29 ปี ชาว ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เป็นคนขับรถ โดยมีนายรัฐพล ขุนรองรัมย์ อายุ 29 ปี ชาว ต.คอโค อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นพนักงานเร่งนัดหนี้สินของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง เป็นผู้นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ
จากตรวจสอบพบพร้อมของกลางยาบ้า 3 มัด ประมาณ 6,000 เม็ด วางอยู่ที่บริเวณเบาะข้างคนขับ และยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงซิปอีก 510 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ รวมของกลางยาบ้าที่ตรวจยึดได้ 6,510 เม็ด จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูเมือง ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
สอบถาม นายภาณุวัฒน์ หรือชีพ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของ นายนราธิป สดใส หรือแชมป์ พี่ชายของตนเองที่ทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายอนุมัติสินเชื่อ บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ เป็นคนใช้ให้ตนนำยาบ้า 3 มัด (6,000เม็ด) มาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.คูเมือง โดยตกลงให้ค่าจ้าง มัดละ 1,000 บาท โดยตนได้ไปรับเอายาบ้าจำนวนดังกล่าวจากนายนราธิป หรือแชมป์ พี่ชายที่บ้านพักในตัว อ.สตึก ซึ่งขณะนั้นพี่ชายของตนได้อยู่บ้านกับแฟนสาว ส่วนยาบ้าพี่ชายของตนได้เป็นผู้ติดต่อซื้อขายกับลูกค้าไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว และเมื่อรับเอายาบ้ามาเสร็จตนจึงได้ชักชวนนายรัฐพล หรือรุด ซึ่งเป็นเพื่อนที่มั่วสุมเสพยาบ้าด้วยกันให้นั่งมาเป็นเพื่อน พอตนขับรถมาถึงพื้นที่นัดหมาย จึงได้จอดรถที่ป้ายบอกทาง แล้วบอกให้ นายรัฐพล หรือรุด ลงไปดู ต่อมามีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจอดปิดหน้าปิดท้ายรถของตนเอง ด้วยความตกใจจึงขับรถพุ่งชนเพื่อหลบหนี แต่ก็ไปไม่รอดและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
จากนั้นตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายนราธิป พี่ชายของนายภาณุวัฒน์ ตามคำให้การ แต่กลับไม่พบนายนราธิป พร้อมแฟนสาวและรถยนต์ส่วนตัวอยู่แต่อย่างใด ซึ่งคาดว่านายนราธิป น่าจะรู้ตัวและอาจจะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านของแฟนสาวใน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม จึงได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ร่วมเข้าตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านพักของแฟนสาว ก็พบตัวนายนราธิป อยู่กับ น.ส.กัญญาวีร์ หรือเอ๊ะ ซึ่งจากการตรวจสอบภายในห้องพักของทั้งสองพบของกลางยาบ้า 16,969 เม็ด และสารไอซ์อีก 0.1 กรัม ตำรวจ สภ.พยัคฆภูมิพิสัย จึงทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พยัคฆภูมิพิสัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าว เป็นการขยายผลของชุดจับกุมที่ตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ ได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้สมัครใจให้ข้อมูลเพื่อจับกุมทำลายเครือข่ายยาเสพติด จากผู้ค้าชาวลาว จากนั้นตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ ได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมวางแผนจับกุม และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางดังกล่าว