เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกป่าลึกจังหวัดนราธิวาส ตกตะลึง พบไม้ซุงกว่า 100 ท่อน ขณะที่ตรวจสอบหนังสือรับรองทำประโยชน์ น.ส.3 ก. ก็มีพิรุธ
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการภัยแทรกซ้อน พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ, ทหารพรานที่ 4606 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.2 (รือเสาะ) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกซีโป เดินทางขึ้นไปบนภูเขาเมะแต ตำบลลาโล๊ะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร หลังสายข่าวแจ้งว่ามีกลุ่มคนลักลอบตัดไม้ป่าหวงห้าม เพื่อทำไม้ซุงท่อนนำไปจำหน่าย
โดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยรถตีนตะขาบ ไถเปิดป่าทำถนนจากสวนยางพารา ผ่านป่าสมบูรณ์ไปบนภูเขาสูง และตลอด 2 ข้างทาง พบไม้ซุงท่อน 17 จุด รวมไม้ซุงท่อนขนาดใหญ่ทั้งหมด 116 ท่อน ส่วนใหญ่เป็นไม้ยวนผึ้ง ไม้กาลอ ไม้ทัง ไม้มังคะ ทั้งหมดเป็นไม้หวงห้าม นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการขนย้ายไม้ซุงท่อนบางส่วนด้วยรถบรรทุกออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ขณะที่ นายอับดุลเล๊าะ เจ๊ะแต ชาวตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เข้าพบเจ้าหน้าที่และยอมรับว่า ร่วมตัดไม้จริง โดยอ้างว่าทำไม้ในที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือ น.ส.3 ก. พร้อมนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งตรวจแล้วพบว่าขออนุญาตตัดไม้เพียง 2 ต้น และเอกสารแจ้งการครอบครองที่ดินอีกฉบับที่นำมาแสดงพร้อมกัน ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้
ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้สมบูรณ์ถาวร เขาเมาะแต ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลาโล๊ะ อำเภอรือเสาะ กับตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จึงแจ้งนายอับดุลเล๊าะ ว่าการไถป่าเปิดถนนและตัดไม้ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และมอบหมายให้นายอับดุลกอเดร์ วาเตะ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.2 (รือเสาะ) ทำบันทึกตรวจสอบ พร้อมยึดไม้ซุงท่อนเพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีวัดป่าแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สั่งจัดหาไม้ซุงท่อนจากจังหวัดนราธิวาส นำไปทำวัดดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้และชื่นชมไม้ซุงท่อนที่มีขนาดใหญ่ อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี