พิษโควิดกระทบปางช้าง แห่แชร์ภาพควาญช้างป้อนกล้วยช้างผอมร้องไห้

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

จากที่ชาวโซเชียลแห่งติดตามและแชร์คลิปไลฟ์สดเฟสบุ๊คส์ของผู้ใช้ชื่อ ชีวิตยังมีพรุ่งนี้ สีจันทร์ขำ ซึ่งเป็นควาญช้างแห่งหนึ่งกำลังป้อนผลไม้ให้กับช้างชื่อไข่มุก พร้อมกับพูดคุยพึมพำว่าลูกเอ้ยมีน้อยกินน้อยนะ หมดแล้ว เดี๋ยวโควิดก็ผ่านไปแล้ว โดยช้างเชือกดังกล่าวมีน้ำตาไหลออกมาเมื่อได้กินอาหารผลไม้ ในช่วงวิกฤติโควิด19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาให้อาหารหรือบริจาคช่วยเหลือช้าง ก็ได้รับผลกระทบทั้งช้าง ควาญช้าง ชาวไร่ชาวสวนรอบปางช้างที่ปลูกผลไม้มาขายก็ไม่มีกำลังไปซื้อมาได้

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ปางช้างไทรโยค เลขที่ 30/2 หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบ เรื่องราวที่เกิดขึ้น พบว่า ปางช้างไทรโยคที่เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมจำนวนมากเกือบทุกวัน กลับมีสภาพเงียบเหงาไร้นักท่องเที่ยว ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยซักคนเดียว พบช้าง 19 เชือก อยู่ในสภาพซูบผอมกว่าปกติมาก พบตัว นายอำพล สีจันทร์ขำ อายุ 43 ปี หรือควาญแก่น คนที่โพสต์คลิป ได้รับการเปิดเผยว่า ผมก็โพสต์เล่นๆ ขำๆ ไปช่วงนี้ว่างครับมีโควิดเข้ามา ก็เลยสงสารช้างให้อาหารเขานิดๆ หน่อยๆ ปัญหาหลักๆ ก็โควิดนี่ล่ะครับ โดยผลกระทบไปทุกวงการทุกภาคส่วน ชาวช้างของเราก็ได้รับผลกระทบมากครับ เพราะว่า 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติก็หาย 2.นักท่องเที่ยวในประเทศก็หาย น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ ผลกระทบมากว่า 2 ปี เพราะว่านี่โควิดรอบที่ 3 แล้ว ตั้งแต่รอบแรกก็กระทบมากแล้วก็รอบ 2 ก็ยิ่งรอบ 3 ยิ่งก่อนหนักกว่าเดิมครับ ส่วนตัวดั้งเดิมเป็นคนอยู่แถวภาคอีสานจังหวัดมหาสารคามแล้วก็ย้ายภูมิลำเนามาอยู่นี่ก็ได้ประมาณ 20 กว่าปีแล้วมาอยู่ที่นี่

ส่วนตัวก็ได้รับกระทบมากเลยครับการเดินทางจะกลับบ้านจะกลับไปเยี่ยมญาติก็ลำบากครับเพราะว่าตรงไหนก็มีพื้นที่สีแดงหมด ตอนนี้ที่เลี้ยงช้างก็ด้วยใจครับใจรักมากรักเหมือนรักเหมือนลูกถ้ารุ่นอายุน้อยกว่าเราก็เหมือนลูกแต่ถ้าโตกว่าเราก็เหมือนแม่เหมือนพ่อเหมือนแม่เราครับผูกพันธ์กันตั้งแต่เห็นเขานะ ผมเลี้ยงช้างมาประมาณ 23 ปี เลี้ยงเปลี่ยนตัวที่ 5 แล้ว ที่เปลี่ยนเลี้ยงเพราะว่าตอนเด็กผมก็จะฝึกช้างด้วยเป็นครูสอนช้างเมื่อก่อนนี้พอโตขึ้นสักหน่อยผมก็เปลี่ยนให้รุ่นน้องเขาเลี้ยงแล้วก็ผมก็ผลัดกันมา

แต่ก่อนคือว่ากินเขาก็กินอิ่มกับเขาได้กินเต็มที่มีนักท่องเที่ยวมาป้อนอาหารวันๆ หนึ่งประมาณ 300 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน แต่เมื่อก่อนนี้เขาได้รับเต็มที่ คือว่านักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะอาหารการกินก็หลากหลายแต่ตอนนี้มีโควิดเข้ามาคือแบบต่างกันโดยสิ้นเชิงเลย พวกผมต้องพยายามหาอาหารให้เขากินให้ได้เต็มที่ที่สุดนะทุกวันนี้ อาหารหลักๆ ก็ต้นกล้วย หญ้าบาน่า ที่เราปลูกแล้วก็ต้นสับปะรดที่เรารับซื้อจากชาวไร่ เป็นอาหารหลักของช้างตอนนี้ก็เกือบขาดแคลน มีวงอาหารจำกัดมาก ตอนนี้กล้วยก็แพงมาก ชาวไร่ชาวสวนก็ไม่โละต้นกล้วยเลยเพราะว่ากล้วยราคาดีปีนี้ ตอนนี้วงอาหารช้างเดี๋ยวนี้เหลืออยู่ 2 อย่างคือหญ้าบาน่า ที่เราปลูกไว้เองแล้วก็ต้นสับปะรดเราไปซื้อกับชาวไร่ ขอฝากนักท่องเที่ยวมาสนับสนุนชาวช้างช่วยมาเลี้ยงช้างเหมือนเดิมช้างจะได้อยู่ดีกินดีสงสารช้างครับ

ส่วนนายไชยพงษ์ แสนดี ประธานมูลนิธิอนุรักษ์และบริบาลช้าง เจ้าของปางช้างไทรโยค เปิดเผยว่า ที่นี่มีช้างทั้งหมด 19 เชือก ทั้งช้างและควาญช้างรวมทั้ง ชาวไร่ชาวสวนได้รับผลกระทบจากโควิดทุกรอบ และครั้งที่ 3 นี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย และเมื่อก่อนก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาช่วยบ้างและไม่มีเลย สถานการณ์แบบนี้ก็เงียบไปด้วยกันทั้งหมดทั้งไทยและต่างประเทศ กระทบแรงมากๆ เลยทีเดียว ตอนเริ่มต้นโควิด ครั้งแรกก็ค่อยข้างหนักมาเรื่อยๆ ครั้งที่ 2 จะดีขึ้นกลับหนักเข้าไปอีก ส่วนมากช้างจะชอบกินแตงโม สับปะรด และกล้วยก็จะซื้ออาหารมาเสริมก็ไม่มีเลย

ก่อนโควิดนักท่องเที่ยวเคยมาให้อาหารช้างอยู่เรื่อย ช้างเราก็อิ่มหนำสำราญ แต่ทุกวันนี้ช้างก็มีกินน้อย ส่งผลกระทบไปด้วยกันทั้งหมดแม้แต่ผู้ดูแลช้าง ทุกอย่างก็กระทบอย่างแรงมากเลย หากมีโอกาสก็ให้โปรดกรุณาจะเป็นบุญเล็กๆน้อยๆ ยังไงก็ไม่ว่าขอให้ช่วยเหลือมาผ่านทางปางช้างไทรโยค หรือมูลนิธิอนุรักษ์และบริบาลช้างไทย ก็อยากจะให้พี่น้องพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่พอมีกำลังก็เชิญแวะมาเยี่ยมเยียนมาให้อาหารช้าง ก็ขอขอบพระคุณแล้ว ทางเรายินดีต้อนรับ อย่างน้อยๆ เราได้เลี้ยงสัตว์ใหญ่ร่วมกันทำให้ช้างเรามีความสุข ก็เชิญชวนทุกท่านครับ

ส่วนการที่ช่วงนี้ช้างร้องไห้เพราะ ช้างเป็นสัตว์สูง เขาสามารถรับรู้ได้ว่า บ้านเมืองกำลังทุกข์สาหัส ยิ่ฃช่วงนี้ใครมาเที่ยวชมก็จะร้องไห้ เหมือนกับเขาดีใจที่มีคนมาหามีคนมาให้ของกิน เขาอดมาก เราก็ดูแลได้ตามกำลังของเรา ไม่ผิดปกติหรอกที่ช้างร้องไห้ เพราะตอนนี้เขาก็มีความรู้สึกว่ามีความทุกข์เหมือนคนไทยเรา

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่