เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ร่วมกับกองทัพอากาศ กองทัพบก ได้สนับสนุนอากาศยานและกำลังพล เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนใน 2 ภารกิจหลัก คือ ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับใช้การเกษตร และช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยกว่าเกณฑ์ และในช่วงนี้หลายๆพื้นที่ในประเทศมีปริมาณฝนลดลง แม้จะเข้าสู่กลางฤดูฝนและเหลือระยะเวลาฤดูฝนอีก 2 เดือนเศษๆ ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำยังคงมีปริมาณน้ำน้อยในหลายพื้นที่ โดยทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้น้อมนำโครงการพระราชดำริฝนหลวง โดยรัชกาลที่ 9 ทรงคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือบรรเทาการแคลนน้ำในพื้นที่ต่างๆ ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ทั้ง 13 หน่วยฯ ยังคงปฏิบัติงานเฝ้าติดตามสภาพอากาศ หากสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวงพร้อมช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที
สำหรับผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 11หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู เลย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ชลบุรี ระยอง เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึง เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้เขื่อน จำนวน 4 แห่ง และอ่างเก็บน้ำ จำนวน 11 แห่ง
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคกลาง เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 6 หน่วยฯ ได้แก่
- หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชร พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก
- หน่วยฯ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างฯกระเสียว ห้วยเทียน เขื่อนศรีนครินทร์
- หน่วยฯ จ.ลพบุรี ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ลพบุรี จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.สระบุรี พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างฯในพื้นที่ภาคกลาง
- หน่วยฯ จ.ขอนแก่น ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.เลย จ.หนองบัวลำภู
- หน่วยฯ จ.สุรินทร์ ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม
- หน่วยฯ จ.นครราชสีมา ช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายหลัก : พื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ พื้นที่เป้าหมายรอง : พื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการ จำนวน 1 หน่วย ไม่มีการปฏิบัติการฝนหลวง ได้แก่ หน่วยฯ จ.ตาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสังเกตอาการหลังเข้ารับการฉีดวัคซีน Covid-19 และอีก 6 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะยังคงติดตามสภาพอากาศต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการ ฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100