ยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิดจากงานปาร์ตี้ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมีการแฉว่า ปาร์ตี้งานวันเกิดที่ผู้ประกาศข่าวไปร่วมงาน เป็นปาร์ตี้กางเกงใน มีการเปิดภาพชายสวมกางเกงในถ่ายภาพหน้ากระจก พร้อมบอกว่า เป็นภาพในงานวันปาร์ตี้ ส่วนที่จ.มหาสารคาม ก็ไม่น้อยหน้า เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดโควิด พบ เที่ยวงานเลี้ยงสังสรรค์ 8 วัน ทำให้มีผู้เสี่ยงติดเชื้อกว่า 100 คน
มหาสารคาม พบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 6 ราย เร่งค้นหาผู้สัมผัส
เผยรูปหลุดปาร์ตี้โรงแรมดังกลางกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทม์ไลน์ที่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยระหว่างการประชุมวันนี้ เป็นไทม์ไลน์ของ ผู้ป่วย ชาวจ.มหาสารคาม ที่เดินทางเที่ยวสังสรรค์ตามงานเลี้ยง รวม 8 งาน เริ่มจาก 10 มกราคม ไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อน ที่ ต.ตลาด อ.เมือง จากนั้น 11 มกราคม ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่ร้านอาหาร Day night ริมคลองมหาสารคาม 12 มกราคม ไปงานเลี้ยงวันเกิดแม่ของเพื่อน 13 มกราคม ไปงานเลี้ยงที่ร้านอาหารจัดเผ็ด ริมคลองสมถวิล ถัดจากนั้น 17 มกราคม คนนี้ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ที่ร้านอาหาร Day night และ 18 มกราคม ไปงานเลี้ยงที่ร้านอาหาร โมบายสเต็ก 23 มกราคม ย้อนกลับไปที่ ร้านอาหาร Day night ก่อนที่ 25 มกราคม จะไปที่ร้ายหนังกลางแปลง การไปงานเลี้ยงสังสรรค์ 8 วันของผู้ป่วยคนนี้ ทำให้มี ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง รวม 53 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 คน และมี ผู้มีอาการเข้าข่ายสอบสวนโรค (PUI) 25 คน
ถือเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่ สั่งการเฝ้าระวังต่อเนื่อง ขณะที่ภาครวมการติดเชื้อโควิดของจ.มหาสารคามวันนี้ เฉพาะในเขตอำเภอเมืองมหาสารคาม พบผู้ติดเชื้อรวม 6 คน ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มก้อนที่ไปงานเลี้ยงสังสรรค์ ส่วนทุกพื้นที่ โดยเฉพาะ พื้นที่ที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ตามไทม์ไลน์ผู้ป่วย ตอนนี้จังหวัดสั่งปิดพื้นที่ ทำความสะอาดรวม 3 วัน ส่วนทีมสอบสวนโรคเร่งค้นหาผู้สัมผัสเพื่อตรวจหาเชื้อเร่งด่วน
ส่วนคลัสเตอร์ดีเจมะตูม โดยเฉพาะในกลุ่มงานวันเกิดที่ผู้ประกาศข่าว ไปร่วมงาน ถูกแฉเพิ่มเติมอีก โดยนักข่าวบันเทิงชื่อดัง เปิดภาพชายสวมกางเกงใน ยืนถ่ายรูปหน้ากระจก รวม 7 คน นักข่าวบันเทิงที่โพสต์รูปนี้ ระบุข้อความว่า เป็นปาร์ตี้กกน. ในโรงแรมดัง แต่ก็มีการถกเถียงจากคนในโลกออนไลน์ว่า ภาพนี้เป็นภาพเก่า ไม่ใช่งานปาร์ตี้ที่โรงแรมเรเนซองส์ ซึ่งผู้ประกาศข่าวไปร่วมงาน และมีคนติดโควิดหลายคน หากเทียบภาพระหว่างภาพ หน้ากระจก กับภาพในงานปาร์ตี้ ที่มีผู้ร่วมเฟรมภาพรวม 20 คน พบว่า มีอย่างน้อย 2 คน ในภาพ “หน้าคล้ายกันมาก” แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นคนเดียวกันหรือไม่ หรือหากยืนยันได้ว่าเป็นคนเดียวกัน ข้อมูลตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ภาพทั้ง 2 ภาพ ถ่ายในวันที่ 16 มกราคม ที่โรงแรมเรเนซองส์จริงหรือไม่
ส่วนอีก 1 ประเด็นที่โลกออนไลน์พยายามขุดคุ้ย คือ คนในภาพแต่ละคน คือ ใคร และ ปัจจุบันติดเชื้อโควิด หรือไม่ หนึ่งในคนที่ถูกโลกออนไลน์ตามหา คือ คนที่ถูกระบุว่า เป็น “สจ๊อตชื่อ ฉิงฉิง” ต่อมามีการระบุว่า คนนี้ คือ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ไปอยู่ไหนมา” ซึ่งมีคนติดตามเกือบ 3 แสนคน แต่เจ้าของเพจดังกล่าว ยืนยันว่า ตัวเองไม่ใช่คนในภาพและไม่เคยไปร่วมงานวันเกิดใครที่โรงแรมเรเนซองส์
PPTV วิดีโอคอล พูดคุยกับ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “ไปอยู่ไหนมา” หรือ นายวรฉัตร ธำรงวรางกูร เขาบอกว่า ตัวเอง ชื่อ เฉียงเฉียง ไม่ใช่ ฉิงฉิง เชื่อว่าที่มีคนเข้าใจผิด เพราะ ชื่อคล้ายกัน รวมถึง ตัวเองมีอาชีพเป็น เหมือนกับบุคคลในภาพด้วย รวมถึงในวันที่ 16 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มดังกล่าวจัดปาร์ตี้ เขายืนยันว่า ตัวเองพักอยู่ที่คอนโด ไม่ได้ออกไปไหน
สำหรับคลัสเตอร์การติดเชื้อโควิดของกลุ่มดีเจมะตูม ซึ่งคาบเกี่ยวถึงกลุ่มงานวันเกิดเพื่อนผู้ประกาศข่าว ที่โรงแรมเรเนซองส์ ตอนนี้ พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 29 คน ไทม์ไลน์ที่ปรากฏออกมาตอนนี้มีแค่ 10 คน ส่วนอีก 19 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค มีการรายงานว่า จะมีการเปิดไทม์ไลนผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ และ จำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงว่าตอนนี้มีจำนวนเท่าไหร่ ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ในส่วนของการสอบสวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการวินิจฉัยไปแล้วตอนนี้มี 29 คน แต่ในส่วนของผู้สัมผัสที่จะแจกแจงว่าเป็นเสี่ยงสูงเท่าไร เสี่ยงต่ำเท่าไร จะนำมาเรียนให้ทราบในการแถลงวันพรุ่งนี้
ด้านแหล่งข่าวในกรุงเทพมหานคร ระบุว่า หลังจากนี้ ไทม์ไลน์ของกลุ่มปาร์ตี้ทั้ง ของดีเจมะตูม ที่โรงแรมบันยันทรี และ ของกลุ่มเพื่อนผู้ประกาศข่าว ที่โรงแรมเรเนซองส์ จะค่อย ๆ ทยอยปรากฏออกมา
ส่วนกรณีที่ผู้ติดโควิดในคลัสเตอร์นี้ ปกปิดไทม์ไลน์ของตัวเอง และ ล่าสุดทยอยแก้ไขไทม์ไลน์ โดยเปลี่ยนจาก “ไม่ให้ข้อมูล” เป็น การบอกว่า ช่วงเวลาดังกล่าว “อยู่บ้าน” นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ย้ำว่า กำลังจับตามองการดำเนินคดีของศบค.และ กระทรวงสาธารณสุขอยู่ เนื่องจากส่วนตัวไม่เชื่อว่า กลุ่มคนที่ชอบเที่ยวจะอยู่บ้านหลายวันตามที่แจ้งไทม์ไลน์ใหม่ ย้ำว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่า ปกปิดไทม์ไลน์และ เจ้าหน้าที่ไม่แจ้งความเอาผิด นายรณณรงค์ จะไปแจ้งความ เจ้าหน้าที่ ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
พล.ต.อ.สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า ตอนนี้รอทางกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะดำเนินคดีกับคนที่ปกปิดข้อมูลการสอบสวนโรคหรือไม่ หากประสานมาก็พร้อมจะเอาผิดตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้ จะประสานไปทางกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสอบถามว่า จะมีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีหรือไม่