สามัญสำนึก ที่ภาษาอังกฤษเขียนว่า (common Sense)แปลว่า ความสำนึกหรือความเฉลียวใจที่คนปกติธรรมดาทั่วไปควรจะต้องรู้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับคำแนะนำสั่งสอน สามัญสำนึกพัฒนาจากความรู้ที่ได้จากการผ่านประสบการณ์ การลองผิดลองถูก หรือบรรดาความรู้ที่ได้รับจากจารีตประเพณี
อริสโตเติ้ลเป็นบุคคลแรกที่อธิบายว่าสามัญสำนึกเป็นความสามารถของสัตว์ที่ประมวลประสาทสัมผัส-ความรับรู้, ความทรงจำ และจิตนาการ (phroneîn) เพื่อบรรลุการตัดสินใจพื้นฐานหลายประเภท แต่มีมนุษย์เพียงชนิดเดียวที่มีการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลอย่างแท้จริง (noeîn), ซึ่งทำให้มนุษย์อยู่เหนือสามัญสำนึก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วการเมืองไทยมีการพิจารณา “ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ต่อด้วยการพิจารณา “ร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจำนวน 500,000 ล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดระลอกใหม่ของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” พ.ศ.2564”
ซึ่งได้มีการอภิปรายแสดงความเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยร่างกฎหมายทั้งสองฉบับอย่างกว้างขวางด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงไม่ต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็ว่าได้
ในการอภิปรายของนักการเมืองฝ่ายค้านมีหลายครั้งที่พาดพิงถึงการก่อหนี้ของรัฐบาลตลอดระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินต่อเนื่องตลอด 7 ปีมีการอภิปรายถึงตัวเลขหนี้สาธารณะที่เกือบจะถึง 60% ของจีดีพีที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
วินัยการเงินการคลัง ซึ่งกฎหมายทั้งสองฉบับนั้นผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนท่วมท้น
อย่างไรก็ดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ได้ตอบชี้แจงเป็นระยะซึ่งบางช่วงบางตอนได้แสดงข้อเท็จจริงของหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นว่ามาจากโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติกว่า 7-8 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องจัดเงินรายได้ของรัฐส่วนหนึ่งเพื่อใช้หนี้การนี้ กระทั่งนายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้านได้อภิปรายสรุปโดยบังอาจจาบจ้วงอัญเชิญพระราชดำรัส “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แค่ว่า “ขาดทุนคือกำไร” มาเทียบเคียงโครงการทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ถัดมาไม่กี่วัน “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีออกนอกประเทศก่อนที่ตุลาการ
ผู้พิพากษาจะมีคำพิพากษา ได้โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจของตนเองที่ใช้ชื่อว่า “Yingluck Shinawatra” แก้ตัวว่าโครงการนี้มีความคุ้มค่าต่อภารกิจและเศรษฐกิจโดยรวม แต่คณะรัฐประหารปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นนำข้าวในโกดังมาจัดเกรดทั้งที่ไม่เคยมีการดำเนินการเยี่ยงนี้มาก่อนและนำไปขายต่ำกว่าราคาตลาด ทั้งยังอ้างว่าได้วางระบบชำระคืนหนี้สาธารณะก้อนโตตั้งแต่วิกฤติต้มยำกุ้ง โดยที่รัฐบาลทหารแก่ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งลดหนี้ไปหลายแสนล้านบาท
อีกด้วย ก่อนจะจบด้วยสำนวนที่ว่า ฉันฟังการกล่าวโทษนี้มา 7 ปีแล้ว ลักษณะเยี่ยงนี้ สุภาพบุรุษชายชาติทหารเขาไม่ทำกัน
ขณะที่ขาประจำ สส.บัญชีรายชื่อ เจี๊ยบ-อมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ผู้ทรงเกียรติจังหวัดนครปฐมได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เป็นระยะ โจมตีด่าทอผู้นำประเทศอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบสาดเสียเทเสียไร้ซึ่งสัมมาคารวะ ทั้งเป็นการโพสต์ข้อความนอกการประชุมสภาซึ่งจะไม่มีอภิสิทธิ์คุ้มครอง ทั้งสองประเด็นจากทั้งสองคนนี้ นายกรัฐมนตรีน่าจะดำเนินการตามกฎหมายพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นการปรามสังคมไทยให้รู้สิทธิเสรีภาพภราดรภาพของบุคคล มิใช่ดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนตนแต่เพื่อสังคมโดยภาพรวมโดยแท้