เพื่อไทย จ่อชง กมธ.งบฯปรับลด หรือตัดงบฯกองทัพเรือในการจัดซื้อเรือดำน้ำทิ้ง เพราะไม่มีความจำเป็นในขณะนี้
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ที่เสนองบประมาณในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 22,500 ล้านบาท ตนมีข้อสังเกตว่ามีความไม่โปร่งใส เพราะพบการเร่งรัดการลงนามจัดซื้อ โดยพบว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ย.63 ก่อนที่พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผบ.ทร. จะเกษียณอายุราชการ มีหนังสือจากกองทัพเรือส่งไปยัง นายสู จ้าน ปิน รองประธานองค์กรบริหารงานของรัฐด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม เพื่อการป้องกันประเทศของจีน เพื่อเร่งรัดการลงนามร่วมกัน โดยอ้างถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่อาจทำให้การเจรจาถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง รวมถึงมีข้อพิรุธเรื่องการจ่ายเงินจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก พบว่าในสัญญาซื้อขายที่ลงนามโดย พล.ร.อ.ลือชัย ระบุว่า การจ่ายเงินให้บริษัทเอกชน ทั้งที่การทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ ควรชำระเงินให้รัฐบาลจีนหรือกระทรวงกลาโหมประเทศจีนโดยตรง ตนจึงสงสัยว่าจะไม่โปร่งใสต่อการจัดซื้อตามสัญญาที่ระบุว่า เป็นแบบจีทูจี ซึ่งตนเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะรับทราบเพราะเป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม อีกทั้งเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับทราบรายละเอียดก่อนลงนามเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายยุทธพงศ์ ระบุว่า วันที่ 19 ก.ค.64 กมธ.งบประมาณฯ จะนัดประชุมเวลา 09.00 น. และจะเป็นการประชุมแบบออนไลน์ ซึ่งทางกมธ.ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วมประชุม โดยอ้างถึงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตนมองว่าผู้บัญชาการทหารเรือต้องมาชี้แจงเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำให้ได้
ทั้งนี้นายยุทธ์พงศ์ ระบุว่า กมธ.ฝ่ายค้านทั้งหมดได้หารือ และมีมติว่าพรุ่งนี้ที่มีการประชุมงบประมาณกองทัพเรือจะเสนอขอให้กมธ.งบประมาณชุดใหญ่ปรับลด หรือตัดงบประมาณกองทัพเรือในการจัดซื้อเรือดำน้ำทิ้ง เนื่องจากไม่มีความจำเป็นเมื่อเทียบกับความลำบากของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19