เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พื้นที่ประเทศไทยมีการกระจายตัวและปริมาณของฝนเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยทางธรรมชาติที่เอื้อต่อการเกิดเมฆและเกิดฝนรวมไปถึงร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมีลมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดพาความชื้นเข้ามาประกอบกับบางพื้นที่อาจมีกระแสลมแรง ดังนั้นฝนที่ตกจะมีลักษณะเป็นฝนตกเล็กน้อย อย่างไรก็ตามกรมฝนหลวงและการบินเกษตรร่วมกับกองทัพบกและกองทัพอากาศ ยังคงมี 13 หน่วยปฏิบัติการกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค ในการร่วมปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีน้ำใช้ในพื้นที่การเกษตรอย่างมากที่สุด
สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี ขอนแก่น หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว และเพชรบุรี สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อน จำนวน 9 แห่ง และอ่างเก็บน้ำ จำนวน 11 แห่ง
นายปนิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า มี บริเวณพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขปฏิบัติการฝนหลวงในเช้าวันนี้ จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 2 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ดังนี้
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.สุรินทร์ มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ จ.มหาสารคาม และ จ.สุรินทร์
– หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุบลราชธานี มีเป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร และจ.อำนาจเจริญ
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 11 หน่วยปฏิบัติการ จะติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100