กรณีเลื่อนฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หนึ่งในคนที่ถึงคิวต้องฉีดวัคซีนและถูกเลื่อนออกไป คือ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ทีมข่าวย้อนไปพูดคุยกับนายสุทิน เขาเปิดใจว่า กรณีของเขาถือเป็นกรณีตัวอย่าง ที่สะท้อนการทำงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล เพราะ รัฐบาลรณรงค์ใหม่มาฉีดวัคซีน แต่ตอนนี้ไม่มีวัคซีนให้ฉีดจริง
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เขาไปเข้าแถวรอฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 1 แต่สุดท้ายไม่ได้ฉีด เพราะ ไม่มีวัคซีน เหลือแค่ซิโนแวก ทั้งที่ไปรอฉีดที่สถาบันบำราศนราดูร จุดเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2
ทีมข่าวพูดคุยกับนายสุทิน เปิดใจว่า ที่นำเรื่องราวมาโพสต์เพราะต้องการกระตุกเตือนรัฐบาล ให้เห็นว่า มีปัญหาเรื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
กทม.ยังไม่พร้อม“วอล์ก อิน”วัคซีนไม่พอ
เปิดเส้นทาง “ลำเลียง” วัคซีนป้องกันโควิด-19
โดยเฉพาะ เรื่องการจัดสรรวัคซีน ตั้งข้อสังเกตว่า การที่วัคซีนเหลือเพียง 1 ยี่ห้อ เป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อให้วัคซีนยี่ห้อที่เหลืออยู่(ซิโนแวก) ได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่ มองว่า หากรัฐบาลปล่อยให่วัคซีนขาดตลาดแบบนี้ สุดท้ายจะเกิดสงครามการแย่งวัคซีนของประชาชน
พร้อมยกตัวอย่างว่า รัฐบาลพยายามรณรงค์ให้ประชาชนมาฉีดวัคซีน แต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีวัคซีนให้ฉีด ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว และก่อนหน้านี้กลุ่มดาราก็ได้ฉีดก่อนชาวบ้าน ทั้งหมดนี้นายสุทินตั้งคำถามว่า เป็นความเหลื่อมล้ำใช่หรือไม่ ย้ำว่าการกระทำเหล่านี้ ลายความเชื่อมั่นของประชาชน และเป็นการกระทำที่มักง่าย
นอกจากนี้นายสุทิน ยังแฉเรื่องการฉีดวัคซีนในกลุ่มส.ส. ว่า พบว่าผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับการเลือกยี่ห้อวัคซีน ให้ส.ส.
นายสุทินยังเสนอว่า รัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหา โดยสำรวจโครงสร้างอายุของประชากร เจรจาจัดหาวัคซีนตามช่วยอายุ และ บริหารจัดการให้ทันเวลา เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของประชาชน รวมถึงเร่งกระจายวัคซีนให้คนทุกกลุ่ม อย่างเท่าเทียม เพราะจากที่ทราบมา วัคซีนไปกระจุกตัวอยู่บางจังหวัดเป็นจำนวนมาก