9 พ.ค.64-นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีข้อถกเถียงวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ได้เข้ามายังประเทศไทยหรือยังว่า วัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ สหรัฐอเมริกาได้ขึ้นแผนที่ประเทศที่ใช้วัคซีน ปรากฎแผนที่ประเทศไทยด้วย ต่อมามีการลบแผนที่ประเทศไทยออก ขณะเดียวกันมีข่าวเรื่องการนำวัคซีนมาฉีดให้เจ้าหน้าที่ในสถานทูต แต่โรคระบาดโควิด เป็นโรคระบาดอยู่ในข้อบังคับตามกฎหมายไทยและสากล วัคซีนโควิดจัดหมวดเป็นสินค้าควบคุม ไม่สามารถใช้เอกสิทธินำเข้ามาได้ และการนำเข้าวัคซีนจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก คณะกรรมการจัดหาวัคซีนที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน วัคซีนโควิดเป็นวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งเป็นโรคระบาดต้องเป็นไปตามกฎหมายประเทศนั้นๆ กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มีเอกสิทธิทางการทูตคุ้มครอง การนำเข้าต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังให้ทราบ สิ่งที่ตนและพรรคเพื่อไทยต้องการคือ ต้องการให้มีการนำเข้าวัคซีนดีๆ เข้ามารักษาชีวิตคนไทยให้ได้มากที่สุด ไม่อยากเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับความจริงว่า โรงพยาบาลไม่พอรักษาผู้ป่วย
“การที่มาเปิดเผยการนำเข้าวัคซีนของทางสถานทูตอเมริกา ไม่ได้มีเจตนาจะให้ร้าย หรือเจตนาอื่นใด เพียงแต่เพราะอยากนำเสนอรัฐบาล และพล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้าไม่รู้จะนำเข้าวัคซีนอย่างไร สามารถไปขอคำแนะนำจากสถานทูตอเมริกาได้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มีคนไทยได้ฉีดวัคซีนเพียง 1.8% ของประชากรทั้งประเทศ และหากจะฉีดให้ได้ 100 หรือ 200 ล้านโดส ภายในปีนี้ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศจะต้องฉีดเฉลี่ยนวันละ 4 แสนคน ขณะที่สถาบันบำราชนราดูล ซึ่งเป็นที่ฉีดวัคซีน ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ คำนวนว่าวันหนึ่งฉีดวัคซีนได้เพียงประมาณ 1000 คนเท่านั้น อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดไทม์ไลน์ ออกมาเลยว่า คุณจะเริ่มฉีดที่ไหน เมื่อไหร่ ออกมาให้ประชาชนได้รับทราบเลย อย่าเพียงพูดลอยๆ”
ถามว่า เอกสารที่ได้มามีการระบุหรือไม่ว่านำเข้ามาจำนวนกี่โดส นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เอกสารมีการบอก LOT. หรือปริมาณที่นำเข้า ไม่อยากให้ไปมองที่เอกสิทธิ์และกฎหมายเป็นหลัก เราเอาเอกสารออกมาเปิดเผย ไม่ใช่เพราะอยากจับผิด แต่เพราะวันนี้คนต่างอยากฉีดวัคซีน เรื่องสำคัญวันนี้คือ จะใช้ช่องทางไหนที่จะสามารถนำวัคซีนเข้ามาให้ได้มากที่สุด ไม่อยากให้แบ่งแยกว่าเป็นคนรวย หรือคนจนทุกคนมีความเสี่ยงหมด
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องเงินเยียวยาเพื่อช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์โควิด หลายกิจการต้องปิดให้บริการ วันนี้มีการออกโครงการเราชนะ ให้เดือนละ 1000 บาท 2 สัปดาห์ แล้วต้องใช้ถึงสิ้นเดือนมิถุนยน ถามว่าจะพอได้อย่างไร ขอถามว่า พ.ร.บ.เงินกู้ ที่คุณออกไปก่อน แล้วมาขอการรับรองจากสภาทีหลังนั้นไปไหนหมด คุณต้องนำเงินที่กู้มานั้นออกมาเยียวยาประชาชน ขณะที่วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจกระทบเป็นวงกว้าง พี่น้องเกษตรกรชาวอีสานได้รับผลกระทบ เช่น ปุ๋ยเคมีมีราคาเพิ่มขึ้นกว่า 20% ขณะที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิราคากิโลละ 10 บาท ราคาเท่ากับ 20 ปีที่แล้วที่พรรคไทยรักไทย เป็นรัฐบาล ไหนจะค่ารถเกี่ยวอีก เรียกร้องนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพิณิชย์ว่า จะดูแลชาวนาอย่างไร จะควบคุมราคาปุ๋ยอย่างไร จะช่วยชาวนาเรื่องปัจจัยการผลิตอย่างไร จะเพิ่มราคาข้าวอย่างไร เพราะวันนี้ครอบครัวที่ออกมาทำงานตามร้านค้า หรือกิจการต่างๆจำนวนมากก็ต้องกลับไปอยู่บ้านกันหมด