ห้องเรียนออนไลน์ “สารคามพิทยาคมโมเดล”

วิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้การเรียนการสอนออนไลน์เข้ามามีบทบาทอย่างมาก  เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง 

“มูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย” และ “สถานทูตออสเตรเลีย” จึงได้ร่วมกับ “โรงเรียนสารคามพิทยาคม”  อ.เมือง จ.มหาสารคาม ใช้สื่อการเรียนการสอนจาก www.thailandlearning.org  ในการสร้างชั้นเรียนออนไลน์ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมเทคโนโลยีเข้ากับการศึกษา





นายนิพนธ์ ยศดา ผอ.โรงเรียนสารคามพิทยาคม บอกว่า ช่วงโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากเราต้องเตรียมเรื่องของการเรียนการสอนออนไลน์ให้พร้อม และมูลนิธิเอเชียฯ ได้ดำเนินการจัดทำเรื่องเรียนออนไลน์ให้กับเด็กๆ โดยผ่านสื่อกลางอย่าง www.thailandlearning.org ที่เปรียบเสมือนคลังความรู้ขนาดใหญ่ มีเนื้อหาครบ ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บแล็ต เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้แนวทางของการศึกษาเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะนักเรียนสามารถเข้าไปเรียนรู้ตามสื่อออนไลน์ต่างๆเองได้ ไม่ว่าในประเทศไทยหรือทั่วโลก ซึ่งแนวคิดการเรียนรู้ในรูปแบบออนไลน์ที่ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ เกิดขึ้นมาหลายช่วงทศวรรษแล้ว แต่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ถาบันการศึกษาและนักการศึกษาต้องก้าวสู่การเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อเป็นตัวเลือกในการจัดการศึกษา

ด้านดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการ อาวุธโส ฝ่ายวิจัยและนโยบายของมูลนิธิเอเชียฯ กล่าวว่า มูลนิธิเอเชียฯและสถานทูตออสเตรเลียร่วมมือกันสร้างเว็บพอร์ทัลที่รวบรวมแหล่งข้อมูลการเรียนรู้จากทั่วทุกมุมโลกให้นักเรียนไทยได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผ่านทาง www.thailandlearning.org ที่รวบรวมเนื้อหาครอบคลุมทุกวิชาตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงความรู้นอกห้องเรียนที่สำคัญต่อพัฒนาการเรียนรู้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นักเรียน นักศึกษา สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนหน้าจอสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต  และได้ดำเนินการโครงการนำร่องที่ชื่อว่า “สารคามพิทยาคมโมเดล” ได้นักเรียนจากโรงเรียนสารคามพิทยาคมเป็นอาสาสมัครทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน ค้นคว้าความรู้ในหัวข้อที่สนใจผ่าน  www.thailandlearning.org ซึ่งนักเรียนต่างเห็นตรงกันถึงการเรียนรู้บนโลกออนไลน์ที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ นอกจากในห้องเรียน ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา และสถานที่ สามารถจัดสรรเวลา เสริมสร้างความรู้ด้วยตนเองแม้ไม่ได้อยู่ในสถานศึกษา และนักเรียนอยากให้รัฐบาลสนับสนุนแนวทางการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไป คือการช่วยเหลือทางด้านอุปกรณ์และการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ทั่วถึงและเพียงพอ





ขณะที่ 2 นักเรียนอาสาสมัครที่เข้าร่วมโครงการ“สารคามพิทยาคมโมเดล” อย่าง น.ส.ณัฏฐวี วงศ์กระบากถาวร ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  บอกว่า การเรียนรู้ คือการหาประสบการณ์ที่มากกว่าในห้องเรียน เกิดขึ้นได้ทุกที่ เช่น เวลาช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว เมื่ออยากรู้สรรพคุณของผักบางชนิด ก็ทำการค้นหาและอ่านข้อมูล ผ่าน  www.thailandlearning.org ได้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นการเรียนรู้แล้วเช่นกัน





ส่วน ด.ญ.พิชญ์สินี ชุติมันตพงศ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 บอกว่า การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด และเกิดขึ้นได้จากทุกที่ของโลกใบนี้ เป็นได้มากกว่าการเรียนจากตำรา การเรียนรู้เป็นได้ทุกรูปแบบ เช่น จากการสังเกต การรับรู้ และการนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้ต่อไป และว่า www.thailandlearning.org ทำให้เราสามารถศึกษาหาความรู้ทางออนไลน์ได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา

นับได้ว่า www.thailandlearning.org เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เข้ามาตอบโจทย์การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้กับนักเรียน รวมถึงผู้ที่สนใจ สามารถค้นหาความรู้ได้ตลอดเวลาอย่างแท้จริง…