พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง รอง ผบก.ปพ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ., พ.ต.ท.เจษฎา โสมนัส, พ.ต.ท.วิศิษฏ์ ศรียาภัย รอง ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ. สั่งการให้ ร.ต.อ.กิติพงศ์ สุนทรวิภาต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.ปพ. นำกำลังเข้าจับกุม นายสุรเชษฐ์ หรือโจ๊ก เนื่องกันยา อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดมหาสารคาม ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ก่อนจับกุมชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจากเพื่อนของผู้ต้องหาที่จำคุกอยู่ในเรือนจำอยู่ก่อนแล้วว่า นายสุรเชษฐ์ หรือโจ๊ก (ผู้ต้องหา) หลบหนีมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวย่านสมุทรปราการ ชุดสืบสวนของคอมมานโดจึงได้ขยายผลจากเคลือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวและได้นำกำลังลงพื้นที่ปูพรม ค้นหาจนเจอตัวในที่สุด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้แสดงหมายจับดังกล่าว พร้อมกับแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโดผู้ต้องหาได้วิ่งหนี พร้อมเตรียมตัวขัดขืน เนื่องจากทราบว่าตนเองมีหมายจับและเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในจังหวัดมหาสารคาม ชุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโดจึงได้วิ่งไล่ตามผู้ต้องหาและควบคุมไว้ได้แต่ผู้ต้องหาได้ทำการขัดขืนจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องพันธนาการในที่สุดและจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามข้อเท็จจริง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำยาบ้าจำนวน 4 มัด มาจากฝั่งลาวทั้งหมด พร้อมพวกจำนวน 3 คน ซึ่งมีชื่อว่า นายคิวและนายโปเต้ โดยนายคิวนั้นถูกจับอยู่ก่อนหน้าแล้ว และยังจำคุกอยู่ในเรือนจำ โดยทั้ง 3 คนนำยาบ้ามาจากฝั่งลาว และนำยาบ้ามาพักไว้ที่รีสอร์ตของนายโปเต้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า จากนั้นได้นำยาบ้าพักไว้ที่รีสอร์ต จนกว่าลูกค้าจะมารับโดยให้นายคิวเป็นคนเฝ้าที่รีสอร์ตของนายโปเต้ ซึ่งในเวลาต่อมานายคิวได้ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโดได้ทำการขยายผลจากนายคิวที่อยู่ในเรือนจำจนทำให้จับกุมนายสุรเชษฐ์ หรือโจ๊กได้ในที่สุด
ในการจับกุมนายสุรเชษฐ์ หรือโจ๊ก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ซักถามผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขวาใหญ่ จ.มหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีต่อไป