“อานนท์ แสนน่าน” ประชุมประธาน 5 โซน ของภาคอีสาน เพื่อขยายการเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ตามแนวทางของ “แรมโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ เตรียมพบนักเรียนนักศึกษาตามวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ให้ความรู้ทำไมต้องกษัตริย์ไทย
วันนี้(31 มีนาคม 2565) ณ ห้องประชุมคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย นางนิตยา นาโล ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน ร่วมประชุมกับประธาน 5 โซน ของภาคอีสาน ประกอบด้วย อีสานเหนือ อีสานใต้ อีสานกลาง อีสานตอนบน และ อีสานตอนล่าง รวมเป็น 20 จังหวัด เพื่อขยายการเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ตามแนวทางของ “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ที่ต้องการให้ประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน และ ชนบท มาร่วมกันแสดงพลังในการเปิด“หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ ประชาชน ตามสโลแกนที่ว่า “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี อีสาน-ล้านนา-อโยธยา- อันดามัน”ทั่วทั้งประเทศไทย
ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เราได้รับแนวทางจาก นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ต้องการสลายความเป็นสีเสื้อจะไม่ให้มี เสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือ เสื้อน้ำเงิน จะมีเพียงเสื้อสีเดียวนั้นคือ “สีแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” พร้อมกับต้องการจะส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ให้กระจายการเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน ไปทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด ซึ่งตอนนี้ทางเราก็ได้ให้ประธานแต่ละจังหวัดทุกจังหวัดประสาน ประธานอำเภอ ประธานตำบล และ ประธานหมู่บ้าน ดำเนินการเปิดกันเอง เหมือนกับการเปิด “หมู่บ้านแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งก่อนปักป้ายหมู่บ้านให้ “ปราชญ์ชาวบ้าน” ได้ออกมาพูดคุยกับประชาชนถึงความเป็นมาของ “แผ่นดินไทย ถ้าไม่มีกษัตริย์ไทย จะมีแผ่นดินไทยมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร” หลังจากนั้นก็จะให้ตัวแทน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชน” มาพูดถึงการนำเอาหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาดำเนินการใช้ในชีวิตจริงว่าประสบผลสำเร็จอย่างไรและจะต้องต่อยอดอย่างไรให้ “มั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืน” นอกจากนั้นแล้ว ครั้งต่อไปเราจะลงพบปะนักเรียน นักศึกษา ตามวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัย ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อพบกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ จะได้ทราบและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย และ พระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์